อาหารที่ใช้เป็นหลักในการให้อาหารสัตว์โดยทั่วไป จำแนกออกตามชนิด ลักษณะและคุณสมบัติหรือ
คุณภาพของวัตถุดิบ ( Raw meterial ) ที่นำมาประกอบเป็นอาหารใช้เลี้ยงสัตว์ได้ 2 ชนิดคือ
1.1 อาหารหยาบ ( Roughage ) ได้แก่อาหารที่มีคุณภาพค่อนข้างต่ำ ย่อยยาก มีพวกเยื่อใย ( fiber ) มาก มี
ความหยาบเหนียวหรือกระด้าง โภชนาสาร ( Nutriant ) ที่ได้รับจากอาหารชนิดนี้ส่วนมากจะเป็นพวกคาร์โบ-
ไฮเดรท ( แป้ง น้ำตาล ) อาหารหยาบนี้จะใช้เป็นหลักในการให้อาหารสัตว์กระเพาะรวม ตัวอย่าง อาหารพวก
นี้ เช่น หย้าสด ( soiling ) หญ้าแห้งหรือฟางข้าว ( hays ) หญ้าหมัก ( Silages ) พืชตระกูลถั่ว ( เถาและใบ )
ใบไม้และชิ้นส่วนของพืชอื่นๆ ฯลฯ อาหารชนิดนี้ได้มาจาก 3 แหล่งคือ
ก. จากทุ่งหญ้าธรรมชาติ ( Natural pasture ) ได้แก่ พื้นที่ที่มีหญ้าหรือวัชพืชขึ้นอย่างหนาแน่นโดย
ธรรมชาติ เช่น ตามป่าละเมาะ ตามหัวไร่ปลายนา บริเวณที่ว่างเว้นจากการเพาะปลูกพืชหลัก หรือตามที่รกร้าง
ว่างเปล่า เป็นต้น แหล่งอาหารนี้จะมีพืชนานาชนิดขึ้นปะปนกันทำให้มีคุณภาพต่ำ ทุ่งหญ้าธรรมชาติขอเราใน
ปัจจุบันนี้มีแนวโน้มที่จะลดเนื้อที่ลงเรื่อย ๆ เพราะมีความจำเป็นที่จะขยายเนื้อที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจขึ้นเรื่อย ๆ
นั่นเอง อย่างไรก็ตามเรายังใช้แหล่งอาหารนี้เป็นหลักในการเลี้ยงสัตว์กระเพาะรวม และจะยังคงใช้ต่อไปอีกนาน
ข. จากทุ่งหญ้าที่ปลูกสร้างขึ้น ( Man made pasture ) เป็นทุ่งหญ้าที่เจ้าของฟาร์มสัตว์ปลูกสร้างขึ้น
ตามหลักวิชาการ ทำให้ได้อาหารที่มีคุณภาพสูงและตรงตามความต้องการของสัตว์ สำหรับบ้านเรา ทุ่งหญ้า
ประเภทนี้ยังมีน้อยและมักจะเป็นของฟาร์มปศุสัตว์ที่เป็นของทางราชการหรือของเอกชนที่มีฐานะของฟาร์ม
มั่นคง ทั้งนี้เนื่องจากเกษตรกรส่วนมากมีฐานะยากจนและมีที่ดินจำกัดเพียงผืนเล็ก ๆ เท่านั้นยากที่จะสร้างทุ่ง
หญ้านี้ขึ้นมาได้
ค. จากผลพลอยได้ในไร่นา อาหารจากแหล่งนี้นับว่าเป็นประโยชน์ต่อสัตว์น้อยมาก เนื่องจากมีคุณภาพ
ต่ำและมีจำนวนจำกัดเพียงบางฤดูกาลเท่านั้น เช่น ภายหลังการเก็บเกี่ยวใหม่ ๆ
1.2 อาหารเข้มข้น ( Concentrate ) ได้แก่ อาหารที่มีคุณภาพค่อนข้างสูง มีความละเอียดอ่อนย่อยได้ง่ายใน
ร่างกายสัตว์ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ อาหารชนิดนี้จะใช้เป็นหลักในการเลี้ยงสัตว์กระเพาะเดี่ยว
ตัวอย่างอาหารเข้มข้น เช่น รำละเอียด ปลายข้าว เมล็ดธัญพืช ( grains ) ต่าง ๆ ( ข้าวเหนียว ข้าวจ้าว ข้าว
สาลี ข้าวบาเลย์ ข้าวโพด ข้าวฟ่างฯ ) เมล็ดของพืชตระกูลถั่ว ( ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วลาย ถั่วลิสง )
เมล็ดของพืชน้ำมัน ( งา ละหุ่ง ฝ้าย ทานตะวัน ) พืชหัว ( มันสำปะหลัง มันเทศ ) เนื้อสัตว์ และผลผลิตจาก
สัตว์ ( เนื้อเยื่อเอ็น พังผืด เลือดป่น กระดูกป่น น้ำนม หางนมผง เปลือกไข่ป่น เปลือกหอยป่น ) แร่ธาตุหรือ
สารประกอบต่าง ๆ ( เกลือแกง หินปูนป่น ธาตุเหล็ก ไอโอดีน ) เป็นต้น อาหารชนิดนี้ได้มาจากแหล่งใหญ่ๆ
3 แหล่ง คือ
ก. จากเมล็ดพืชและส่วนอื่น ๆ ของพืช
ข. สัตว์และผลพอยได้จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ น้ำนม หางนมผง เลือดแห้งป่น กระดูกป่น เปลือกหอย
ป่น หรือแม้แต่มูลสัตว์ แหล่งนี้ใช้มากเป็นอันดับสองรองจากแปล่งที่ไนึ่งเพราะมีราคาแพง และหาได้ยากกว่า
แม้ว่าจะมีคุณภาพสูงกว่าก็ตาม
ค. จากแหล่งของแร่ธาตุโดยตรง เช่น เกลือแกง เกลือสินเธาว์ หินปูนป่นและแร่ธาตุบริสุทธิ์อื่น ๆ เช่น
ธาตุเหล็ก ไอโอดีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น